Pregnant 7 + NC (END)

Short Fiction Pregnant
Paring Taiyo x Tenma x Tsurugi
*Warning BL เคะท้องได้ และ 3P เบาๆ*


+++

นับตั้งแต่คลอดลูก นี่ก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้ว ตอนนี้ผมนั่งกำลังเล่นกับลูกบนเตียงอยู่ เอ่อ...เรียกว่าผมเล่นกับลูกอยู่ฝ่ายเดียวดีกว่า เพราะเจ้าตัวกำลังหลับอยู่

ย้อนกลับไปตอนนั้น ผมก็ได้รู้ว่าพี่ไทโยกับเคียวสุเกะแอบติดต่อกันมาสักพักหนึ่งแล้ว มิน่าล่ะ ช่วงนั้นเคียวสุเกะถึงไม่โทรมาหาผมเลย

ลืมบอกเลย! ตอนนี้ลูกผมมีชื่อแล้วนะ

"เลิกกวนเคียวมะได้แล้วน่า" เสียงพี่ไทโยดังขึ้นมาจากข้างหลัง ขณะที่ผมกำลังหันไปมอง พี่เขาก็เข้ามาสวมกอดพอดี กลิ่นหอมสบู่และยาสระผมโชยเข้าจมูกผม

"พี่อาบน้ำเสร็จแล้วก็มาเฝ้าเคียวมะให้หน่อยสิ เดี๋ยวผมจะได้ไปอาบต่อ" ผมพูดพร้อมเอาหัวมุดกับอกกว้างอย่างออดอ้อน ไหนๆเคียวสุเกะบอกว่าอีกสี่เดือนจะมารับ ผมก็ขอตักตวงความสุขเล็กๆน้อยๆหน่อยแล้วกัน

"อืมๆ เดี๋ยวจะเฝ้าให้ ไปเถอะ" พี่ไทโยพูดแล้วลูบหัวผมเบาๆ

ผมผละออกแล้วหันกลับไปอุ้มเคียวมะ จากนั้นจึงลงจากเตียงและเดินไปวางเคียวมะลงกับเปลเด็กที่คุณไทโยซื้อมาให้

...

อุแว้!!!

อีกแล้วเหรอลูกกกกกก

ผมเหลือมมองนาฬิกาดิจิตอลตรงหัวเตียงอย่างง่วงงุน

02.47

อีกแปปก็จะตีสามแล้ว ผมก็ยังไม่ได้นอนเสียที

ผมค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ เหตุผลที่หนึ่งคือง่วงมาก เพราะนี่เป็นรอบที่ 4 แล้ว เหตุผลที่สองเจ็บแผลผ่าตัดที่ยังไม่หายดี และเหตุผลที่สามคือ ผมกลัวอีกคนจะตื่น

"..?.." นั่นไง ตื่นเลย...

"นอนต่อเถอะ" ผมพูดขณะที่ยังนั่งอยู่บนเตียง ประกอบกับลูกที่ยังร้องอยู่ แต่คนตัวโตส่ายหน้าและดันตัวผมลงกับเตียง จากนั้นจึงเดินไปดูเคียวมะ ส่วนผม...ง่วงมากอ่ะ... ตาจะปิดแล้วเนี่ย ถ้าหลับคงไม่เป็นไรใช่มั้ย?

ผมเหลือบตามองคนตัวโตที่อุ้มเคียวมะขึ้นมาและตบก้นให้เด็กน้อยเข้าสู่นิทราอีกครั้ง อือ...ดูไปก็หาวไป หลับเลยแล้วกัน

...

หลังจากที่ผมลุกขึ้นผลัดเวรกับเทนมะเสร็จ ก็เดินกลับมาล้มตัวลงกับเตียง นอนมองคนที่หลับปุ๋ยเหมือนเด็กๆก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

จริงๆนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไม่ค่อยได้นอน แต่เป็นแบบนี้ตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลแล้ว เด็กน้อยต้องคอยกวนเทนมะทุกคืน และผมก็ต้องคอยแลกเวรกับเขาทุกคืน เตรียมใจไว้ตั้งแต่รู้ว่าน้องท้องแล้วล่ะ แต่พอมาเจอจริงๆถึงเข้าใจว่าทำไมพวกเพื่อนๆที่มันมีลูกกันช่วงแรกๆถึงดูโทรมกัน ทั้งคนเป็นแม่และคนเป็นพ่อเลย

ผมยิ้มอย่างอ่อนใจ แล้วโคลงหัวก่อนจะดึงคุณแม่เข้ามากอดหลวมๆ เนื่องจากแผลที่หน้าท้องยังไม่หายดี ผมเลยไม่กล้ากอดหนักๆ เดี๋ยวแผลที่เย็บไว้จะเปิด

จุ๊บ

ผมจูบเปลือกตาข้างหนึ่งของเทนมะเบาๆ จากนั้นจึงหลับตามไปอีกคน

ถ้าผมได้มีครอบครัวกับเทนมะจริงๆคงจะดี...

...

4 เดือนผ่านไป... ครบกำหนดที่เคียวสุเกะจะมารับกลับญี่ปุ่นแล้ว พรุ่งนี้เขาก็จะมาแล้วสินะ... ยังไม่อยากกลับเลย ผมยังอยากอยู่กับคุณไทโยต่ออีกหน่อย

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ผมคอยเก็บข้าวของของตัวเองและเคียวมะ เก็บไปก็เช็กไป ดีที่มีคุณไทโยช่วย ไม่งั้นคงจะหัวหมุนแย่เลย สถานการณ์แบบลูกก็ต้องดู ของก็ต้องเก็บ เฮ้อ...เหนื่อยมากเลย

ผมนอนลงกับเตียงหลังจากส่งเคียวมะที่เปลแล้ว แผลผ่าตัดตตอนนี้ก็เหลือทิ้งไว้เพียงแผลเป็นเท่านั้น

"พรุ่งนี้.." ผมพึมพัมออกมาเบาๆ

เฮ้อ...ไม่อยากไปเลยจริงๆ ถ้าผมไม่อยู่คุณไทโยจะเป็นยังไงบ้างนะ แล้วหลังจากนี้เราจะต้องจบความสัมพันธ์กันแค่นี้เหรอ? ผมหลับตาลงแล้วพยายามสงบสติอารมณ์ลง

ไม่เอาน่า เราต้องอยู่ได้สิ ต้องใช้ชีวิตต่อไป...

"เป็นอะไร?"

ผมลืมตาขึ้นมา เห็นพี่ไทโยยืนอยู่ข้าเตียงและเอาหน้าเข้ามาใกล้ ผมจึงจูบที่ปากเขาเร็วๆหนึ่งที

จุ๊บ!

พี่ไทโยยิ้มออกมาแล้วขึ้นมาคร่อมตัวผมเอาไว้ ตอนแรกรอยยิ้มนั่นดูอ่อนโยนและอบอุ่นมาก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์แทน ถึงผมจะเห็นรอยยิ้มนี้บ่อย แต่ก็ไม่ชินสักที

พี่ไทโยไล่มองใบหน้าผม เริ่มจากตา จมูก และปาก พี่เขาจึงโน้มตัวลงมาตักตวงความหวานจากปากผมอย่างรวดเร็ว เขาดูดดึงริมฝีปากบนและล่างของผมอย่างเมามัน แล้วสอดลิ้นเข้ามาในปาก ลิ้นหนาควานสำรวจไปทั่วปากก่อนจะมาเกี่ยวตวัดกับลิ้นของผม น้ำลายผมค่อยๆไหลย้อยออกมาจากปาก แต่เขาก็ไล่เลียคราบพวกนั้นจนหมดราวกับไม่ต้องการพลาดตรงไหนไปแม้แต่นิดเดียว

อยากหยุดเวลานี้เอาไว้เท่านี้ ไม่อยากให้มันเดินต่อเลย

ผมเอาแขนข้างหนึ่งโอบรอบคอและอีกข้างหนึ่งกดหัวเขาลงมาอีก เพื่อให้แนบชิดกันมากขึ้น ตัวของเราก็เช่นกัน จนเรียกได้ว่าทาบทับกันเลย ผมพลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบนโดยที่ยังไม่ได้ผละจากจูบอันแสนหวานนี้

พี่ไทโยค่อยๆพยุงตัวขึ้นมานั่งเอาหลังพิงกับหัวเตียง ผมที่ขยับตามเขามาเลยต้องนั่งทับส่วนแข็งขืนนั้น ด้วยอารมณ์ตกใจ เลยเผลอผละออกมา

"แฮ่ก..แฮ่ก..อ..นั่น..มัน..." ผมหอบหายใจเพราะความอยากที่แทรกเข้ามาบวกกับความกระดากอายจนพูดตะกุก

ผมสบตาสีนภาที่ฉายชัดถึงคลื่นอารมณ์ลูกใหญ่และน่าจะใหญ่ไม่แพ้กับ...

"ข..ขอโทษ เดี๋ยวพี่มานะ" เขาทำท่าจะลุกออกไปแต่ผมคว้าแขนเขาเอาไว้ เลยทำให้การกระทำของเขาหยุดชะงักก่อนจะหันมามอง

หน้าพี่ไทโยเริ่มแดงกำลามไปถึงใบหู ไม่รู้ว่าเพราะเขินอายหรืออะไรกันแน่ แต่ผมชอบมากๆ และอยากช่วยทำให้เขามีความสุข

"ให้ผมช่วยนะครับ"

พูดจบ ผมก็ขยับเข้าไปหาเขา ซุกใบหน้าลงกับซอกคอ ขบเม้มไปทั่วลำคอและเริ่มไล่ลงมาถึงไหปลาร้า ขณะเดียวกัน มือของผมก็ลูบคลำตรงหว่างขาของเขา ดูเหมือนมันจะสู้มือ จากที่แข็งและ...ใหญ่อยู่แล้ว มันก็ยิ่งพองขึ้นอีก

ผมมองหน้าพี่ไทโย อีกฝ่ายก็เหมือนจะมองผมอยู่ก่อนแล้ว รู้สึกอายตัวเองนิดๆ...ที่อยู่ๆตัวเองก็ให้ความช่วยเหลือ

"จะถอดใจตอนนี้ยังทันนะ" พี่ไทโยพูดและใช้มือหยาบลูบแก้มของผม สายตาที่มองมายังคงความอ่อนโยนแม้จะอยากมากก็ตาม

ผมส่ายหน้าแล้วเปลี่ยนมาอยู่ในท่าหมอบตรงหว่างขาของเขา จากนั้นก็ดึงขอบกางเกงนอนลงจนเห็นกางเกงใน

ในหัวมีความคิดพิเรนทร์ไหลเข้ามา ผมเอาหน้าเข้าไปซุกไซร้สิ่งนั้นและพรมจูบผ่านกางเกงใน ลอบมองใบหน้าหล่อที่กัดปากด้วยความทรมาน มือหนาเสยผมสีสว่างของตนเอง มืออีกข้างที่วางอยู่ข้างตัวถูกยกขึ้นมาลูบหัวของผม

"...รีบทำเถอะ..." เขาว่าเสียงต่ำเจือความอดทนที่ปิดไม่มิด สงสัยผมคงมัวแต่อ้อยอิ่งเกินไปหน่อย

เมื่อพี่เขาเร่งแล้ว ผมก็คว้า...เอ่อ...จะเรียกว่าอะไรดี? อนาคอนด้า? หรือมังกร? อะไรก็ช่าง แต่เอาเป็นว่ามันใหญ่กว่าที่คิดไว้นิดหน่อย...

ผมเลียตั้งแต่โคนยันปลาย ก่อนะที่จะอมมันเกือบทั้งหมด เพราะว่าแค่นี้ก็แทบจะชนคออยู่แล้ว

"อุ" ผมเริ่มขยับขึ้นลงเป็นจังหวะช้าๆเนิบๆ แท่งเนื้อที่อยู่ในปากทั้งแข็งและร้อนมาก

"เร็วอีก..อาห์.." พี่ไทโยเอ่ยเสียงพร่าและหลุดครางออกมา มันเซ็กซี่มากๆเลย...

"อึก" ผมเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก คนที่นั่งอยู่เกิดอาการเสียวจนเกร็งเล็กน้อย มือหนาขยุ้มกลุ่มผมสีน้ำตาลของผมระบายมันออกมา

อ่า..อยากลองกินน้ำของพี่ไทโยจัง...

"อะ..เทนมะ.." พี่ไทโยจะเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงแบบนั้นไม่ได้นะ เพราะมันจะทำให้ผมเลิกใช้ปากแล้วเปลี่ยนมาใช้อย่างอื่นเพื่อกลืนกินของของพี่แทน

"เทนมะ...ออก..."

เหมือนพี่เขาจะพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ ร่างของเขากระตุกเกร็งเล็กน้อย ก่อนที่ของเหลวจะพุ่งออกมาจนผมสำลัก

"แค่กๆๆๆ"

"ก็บอกว่าให้ออกมาไง" พี่ไทโยรีบเข้ามาลูบหลังให้ผมอย่างเป็นห่วงและดุผม ...ที่แท้เขาก็บอกให้ผมเอาปากอกมานี่เอง แต่ว่าพูดเบาแบบนั้นใครจะไปได้ยินกัน?!

"แค่กๆ ก็ผมไม่ได้ยินนี่..." ผมสำลักต่ออีกหน่อย แล้วปาดคราบน้ำของพี่ไทโยที่อยู่ตรงมุมปากขึ้นมาดู

"กินได้มั้ย?" ผมถาม แต่พริบตาต่อมาก็ดูดเลียมันจนหมด ไม่เหลือติดนิ้วแม้แต่นิดเดียว

พรึ่บ!

ร่างของพี่ไทโยกดผมลงกับเตียงก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรินรดใส่หน้ากัน แววตาแสดงความเป็นเจ้าของทำให้ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวนิดหน่อย

"...อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเห็นนะ" ??? แล้ว...

"เคียวสุเกะล่ะ?"

"นั่นแฟนมั้ยล่ะ"

โป๊ก!

ผมทำอะไรผิดอ่า โดนเขกหัวเฉยเลย...

จุ๊บ

ริมฝีปากนุ่มจูบตรงหน้าผากที่โดนเขกไวๆ จากนั้นจึงมอบจูบแสนหวานและค่ำคืนเร่าร้อนให้กับผม

...

ยามเช้ามาเยือน ผมตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดเมื่อยช่วงเอว แต่ก็ต้องกัดฟันทนเอาไว้ ลุกขึ้นอุ้มเคียวมะไปอาบน้ำ แล้วตามด้วยผม พี่ไทโยก็ไปเช็กของอีกครั้งหลังจากปลุกผมแล้ว เมื่อพบว่าไม่ขาดเหลืออะไร เขาก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและส่งผมที่สนามบิน

ซึ่งเคียวสุเกะได้รอผมอยู่ที่นั่นแล้ว...

ดีที่เมื่อคืนพี่ไทโยใส่ถุงยางอนามัย ถ้าหากมีหลุดมาอีกคน ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าเคียวสุเกะจะทำหน้ายังไง

เมื่อถึงสนามบิน ผมกับพี่ไทโยก็ตามเจ้าหน้าที่ไปที่ลานจอดสนามบิน ที่นั่นผมพบเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และคนคุ้นตาอีกหนึ่งคน

"เทนมะ กลับญี่ปุ่นกันเถอะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขสุดๆ พร้อมรอยยิ้มกว้างที่คนอื่นๆพบเห็นได้ยาก แต่กับผมมันเป็นเรื่องปกติ

แม่บ้านสาววัยกลางคนที่ตามมาด้วยเรียกเจ้าหน้าที่ไปขนของของผมขึ้นเครื่อง เคียวสุเกะผู้เป็นเจ้านายยืนยิ้มยินดีอยู่ตรงหน้า

ผมก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้า ไม่ใช่เพราะลูกที่อยู่ในอ้อมแขนหนักเกอนไป หรือเพราะอาการปวดเมื่อย แต่เป็นเพราะคนที่ผมทิ้งไว้ข้างหลัง...

"พี่ไทโย..." ผมหันกลับไปเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว คล้ายน้ำตาจะไหลออกมา แต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้

'...รักนะ...' พี่เขาขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนคราแรกที่เจอกัน

"..อึก" ผมกัดปากตัวเอง กลั้นใจมองภาพสุดท้ายของคนที่ผมรัก

เขาเพียงโบกมือลาทั้งรอยยิ้ม...

ผมหันกลับไปหาเคียวสุเกะและรีบเดินไปหาให้ไวที่สุด ก่อนที่ผมจะร้องไห้ออกมา เคียวสุเกะโอบไหล่ผมพาเดินขึ้นเครื่อง

จนตอนนี้เครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้ามาสองชั่วโมงแล้ว เห็นปุยเมฆสีขาวที่เกาะกลุ่มกันราวกับถูกถักทอเป็นผืนแผ่นเดียวกัน

เคียวสุเกะไปเฝ้าเคียวมะนอนแล้ว...

"เฮ้อ..."

ถึงอย่างนั้น ภาพที่ติดตาผมที่สุด คงจะเป็นคนที่คอยดูแลผมตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีตกหล่น แถมยังทำได้ดีมาก ....มากเสียจนไม่รู้ว่าจะมีใครมาแทนที่ได้...

รักนะ

"อ..ฮึก.." ผมกัดปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

ถึงจะไม่เปล่งเสียงออกมา ผมก็มั่นใจว่าเขาคงต้องพูดคำนั้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มน่าฟัง และถ้าผมกล้าที่จะเลือกอยู่กับคนที่ตนเองรักมากกว่านี้...

ผมรักพี่...

รักมากๆเลยนะครับ

ผมปิดหน้าตัวเองเอาไว้ แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมากระทบหน้าตัก หยดแล้ว..หยดเล่า.. เผื่อจะช่วยลดความคะนึงหาที่มีต่อเขาได้บ้าง

"ฮึก..ฮือออออ"



#END

No comments:

Post a Comment