-7-
“คือ...”
“!!!”
“...ฉันมาขออยู่ด้วยสักพักนะ”
“ครับ”
#relationship
18.40
คาริยะ มาซากิ ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองจริงๆ
นี่เขาฝันไปหรือเปล่า? รุ่นพี่ที่เขาหลงรักหัวปักหัวปำมานานจะมานั่งอยู่ตรงหน้าเขา
ร่างบอบบางที่น่าทนุถนอมกำลังนั่งอยู่บนโซฟา
ใบหน้าสวยหวานกำลังฉายแววความกังวลที่อยู่ข้างในใจ และกระเป๋าที่คาดว่าน่าจะมีของใช้จำเป็นข้างใน
หนีออกจากบ้าน?
“ฉันมารบกวนนายหรือเปล่า?”
คาริยะที่กำลังคิดอะไรต่างๆนานาเกี่ยวกับคนตตรงหน้า
อยู่คนตรงหน้าก็ถามขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเกรงใจ
“ไม่เลยครับ ไม่เลย
ห้องของผมยินดีต้อนรับรุ่นพี่เสมอ” เขาว่าพลางส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับคิริโนะ คิริโนะเลยทำได้เพียงส่งยิ้มแหยๆกลับไป
คิริโนะที่นั่งอยู่บนโซฟากวาดตามองห้องพักขนาดกลางที่เหมาะกับนักเรียน
นักศึกษา หรือคนสองคนสามารถอาศัยอยู่ได้ ห้องพักห้องนี้ถูกออกแบบมาดีน้อย มีห้องนอน
ห้องน้ำ และส่วนที่ถูกจัดเป็นครัว ทุกอย่างดูเป็นสัดส่วนและลงตัว ทั้งโซนรับแขกและโซนส่วนตัว
“ผมว่ารุ่นพี่เอากระเป๋าไปเก็บในห้องผมก่อนก็ได้ครับ
เดี๋ยวผมจะหาอะไรให้รุ่นพี่กิน”
“อ..อื้อ”
มือเรียวหยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในห้องของคาริยะ
และปิดประตูห้อง
พรึ่บ
กระเป๋าถูกวางลงข้างเตียงของเจ้าของห้องก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างกระเป๋าอีกที
หนุ่มร่างบางสูดดมกลิ่นกายของตนเอง และคิดว่าเขาควรจะอาบน้ำได้แล้ว แถมน้ำของชายอีกคนที่ค้างอยู่ในตัวเขาก็ควรเอาออกเช่นกัน
ดีนะ ที่มีห้องน้ำในห้องนอนด้วย จะได้ไม่ต้องออกไป
#relationship
คนหนึ่งกำลังตั้งใจทำกับข้าวมื้อเย็น
อีกคนหนึ่งก็กำลังตั้งใจย่องเข้ามาเงียบๆ เพื่อแอบดูรุ่นน้องตัวแสบทำมื้อเย็นให้เขากิน
เวลาตั้งใจทำอะไรสักอย่างก็เท่ไม่น้อยเลยนะ...
“หอมมั้ยครับ?” คาริยะหันมาถามเขาในขณะที่กำลังผัดข้าวผัดอยู่
“หอม”
“หมายถึง...หอมแก้มผมมั้ยครับ?”
เพี๊ยะ!
“บ้าเหรอ! ใครจะไปหอมแก้มนายกัน”
คิริโนะฟาดต้นแขนของเจ้ารุ่นน้องขี้แกล้งอย่างเต็มแรง แต่เจ้านั่นกลับยิ้มแย้มเหมือนไม่สะทกสะท้าน
แถมยังหัวเราะใส่เขาอีก
“ฮ่ะๆๆๆ ผมล้อเล่นน่า..”
“เพราะผมต้องรอ...ให้ถึงวันที่รุ่นพี่ไม่มี
‘เขา’ ก่อน”
“ถ้าผมเห็นแก่ตัว รุ่นพี่คงไม่มีความสุข”
“ใช่มั้ยครับ...?”
พอสิ้นเสียงของคาริยะ
คิริโนะก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป เลยทำให้มีแต่เสียงทำกับข้าวเท่านั้น อยู่ๆเขาก็รู้สึกอึดอัด
จนต้องเดินออกไปนั่งรอที่โซฟาแทน
#relationship
มื้อเย็นผ่านไปโดยมีความเงียบเป็นตัวคั่นกลางระหว่างเขากับคาริยะ
ตอนนี้เขากำลังล้างจานของเขาอยู่ เพราะคาริยะไม่หิว เลยทำให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่กิน
ล้างจานเสร็จก็เข้ามาหยิมมือถือของตนในห้องนอนเพื่อที่จะโทรหาทาคุโตะ
ในขณะที่กำลังจะกดเบอร์ของทาคุโตะ คนที่อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าที่สวมไว้เรียบร้อยแล้ว
กลิ่นสบู่กับกลิ่นยาสระผมของคาริยะลอยเข้ามาในจมูกของเขา ผมที่ยังไม่ได้ผ่านการเช็ด
เลยทำให้มีหยดน้ำหยดลงบนพื้น
คนที่ถูกมองก็ไม่ได้รู้ตัวเลย
เขาทำเพียงเช็ดผมลวกๆ แล้วผึ่งเอาไว้ตรงระเบียงข้างนอก คนที่จ้องอยู่อดไม่ได้ที่จะออกไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วดึงแขนคาริยะให้มานั่งลงที่พื้น
แล้วตนเองก็นั่งบนเตียง ก่อนจะลงมือเช็ดผมให้อีกคน
“เช็ดก็ไม่แห้ง...ไม่กลัวราขึ้นหัวหรือไง?”
“มันไม่ขึ้นหรอกคร้าบบ”
“จะแน่ใจได้ยังไงว่าไม่ขึ้น?”
“...”
“ใช่มั้ยล่ะ เราไม่รู้หรอกว่ารามันจะขึ้นหัวเราตอนไหน
จะขึ้นหรือไม่ขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามนายต้องเช็ดหัวของนายให้แห้งนะ” เขาก้มลงเช็ดหัวให้คนที่นั่งอยู่ต่ำกว่าพร้อมกับบ่นไปด้วย
“เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า...?!”
คิริโนะตกใจ ที่อยู่ๆคาริยะก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน
จนจมูกของทั้งคู่ชนกันโดยไม่ตั้งใจ
“เข้าใจแล้วครับ” ลมหายที่รดหน้าของเขาทำเอาเขาไม่กล้าหายใจ
หัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากคนที่นั่งข้างล่าง ก็กลายมาเป็นคนที่คร่อมทับร่างบางเอาไว้
ใบหน้าที่ค่อยๆลดระยะห่างให้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองริมฝีปากเดิม
ที่เคยครอบครองริมฝีปากของเขามาแล้วครั้งหนึ่ง และกำลังจะมีครั้งที่สอง
จะทำอะไร...ให้คิดถึงคนที่รักแม่ไว้เยอะๆด้วยนะครับ
คำพูดของตนเองไหลย้อนเข้ามาในหัวราวกับจะย้ำเตือนในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อสติของคิริโนะกลับมา มือเรียวจึงแตะที่ริมฝีปากของคนบนร่างเบาๆ
คาริยะชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่ว่านั่น
เขาคว้ามือทั้งสองข้างของรุ่นพี่คิริโนะแล้วรวบไว้เหนือหัว ก่อนที่จะครอบครองริมฝีปากของร่างบางอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนสักเท่าไหร่
ริมฝีปากหยักดูดกลีบปากบางเป็นเชิงขอเข้าไปข้างใน
คิริโนะเปิดปากให้ลิ้นของคาริยะเข้ามาลิ้มรสความหวาน ลิ้นอุ่นกวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก
แล้วมาเกี่ยวตวัดกับลิ้นของคนใต้ร่างอย่างหยอกล้อกันไปมา
คาริยะผละจูบออกพร้อมกับมองคนใต้ร่างที่แววตาแสดงถึงความเสียดายอยู่ชั่วครู่
ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนเป็นปกติแล้วเสมองไปทางอื่น เขาแอบแสยะยิ้มเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ
เพราะ ‘เหยื่อ’ ของเขา ต้อง ‘ตกหลุมรักเขา’
ในไม่ช้า...
#relationship
“เพราะงั้น...รุ่นพี่เลยหนีออกจากบ้านเหรอครับ?”
“อืม...ใช่ ถ้าเป็นนาย
นายจะรับได้หรอ?”
“รับไม่ได้หรอกครับ
แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องหนีออกมาเลยนี่นา”
วันนี้ทั้งคู่ตื่นมาตั้งแต่เช้า
หลังจากที่เมื่อคืน ‘มัทสึคาเสะ เทนมะ’ โทรหาคาริยะและบอกว่าวันนี้โค้ชเอนโดนัดมาซ้อม
ตอนนี้คาริยะกับคิริโนะกำลังคุยกันระหว่างที่เดินไปโรงเรียน
โดยเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาสนทนาคงจะไม่พ้นเรื่องที่คนร่างบางหนีมาอาศัยกับเขาชั่วคราว
“นายไม่ใช่ฉัน นายไม่เข้าใจหรอก!”
“งั้นก็บอกให้เข้าใจสิครับ”
“...” คิริโนะมองหน้าคาริยะอย่างไม่เข้าใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าเขามีทาคุโตะอยู่แล้ว
แต่ก็ยังเลือกที่จะอยู่ข้างๆเขาแบบนี้น่ะเหรอ? ทนได้ยังไงกัน? เจ้าเด็กนี่...
นอกจากจะแสบแล้ว ยังโง่ซ้ำซาก ไม่เจ็บใจบ้างหรือไง?
#relationship
“มาแล้วคร้าบบบ” คาริยะบอกกล่าวทุกคนที่อยู่ในห้องชมรมฟุตบอล
ทุกคนดูจะแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะปกติแล้วคิริโนะจะมากับชินโดเสมอ แต่ทำไมวันนี้ถึงมากับคาริยะได้
“ทาคุโตะไปอังกฤษกับครอบครัวเขาน่ะ
กลับมาอีกทีก็ใกล้เปิดเทอม” ดูเหมือคิริโนะจะอ่านสายตานั่นออก เลยพูดให้ทุกคนเข้าใจ
“อ๋อ...นึกว่า...”
คุรามะพูดแซวๆ
“อย่าคิดแบบนั้นเชียวนะคุรามะ”
คิริโนะเอ่ยเสียงเข้ม
“รุ่นพี่คิริโนะ ผมขอคุยด้วยหน่อย”
สึรุงิ เคียวสุเกะ เดินเข้ามาคว้าแขนของคิริโนะและพาออกไปคุยกันข้างนอก
#relationship
No comments:
Post a Comment