6 - เฮียวกะ

ติ๊ง!

เฮือก!

เสียงแจ้งเตือนแชทเฟซบุ๊คของผมดังขึ้น อะไรเนี่ย?!! คนใกล้จะหลับอยู่แล้วเชียว!

ผมค่อยๆลุกขึ้นมานั่งอย่างเชื่องช้า ...ก็มันง่วงนี่หว่า คอยดูนะ ถ้ากูรู้ว่าใครบังอาจมาปลุกจะฟาดด้วยช้างดาว(รองเท้าแตะ)เลยแม่งงงงง

Tsurugi Kyosuke : ทำไรอยู่ครับ?

"..."

สงสัยต้องเปลี่ยนจากช้างดาวเป็นคอมแบท(รองเท้าทหาร)แล้วล่ะ...

ปั้ก!

นี่แน่ะ..โยนแม่งลงพื้นซะ ทีนี้ก็จะไม่มีการแจ้งเตือนจากคนเหี้ยๆแบบนั้นในน้องแอปเปิ้ลของผมอีก

ดีที่ผมเก็บข้อมูลพวกภาพและวิดีโอลงแม็คบุ๊คหมดแล้ว เลยไม่ต้องเสียดายเวลามันพัง แต่มันก็ยังมากจากเงินที่ป๊ากับม๊า และพี่ไทโยหามาได้อยู่ดี

ผมเดินไปหยิบมันขึ้นมาจากพื้นแล้วเช็คว่ามันมีอาการผิดปกติหรือไม่ เมื่อพบว่าไม่ ผมจึงเปิดเข้า Messenger

นิ้วหัวแม่มือของผมค้างอยู่เหนือหน้าจอตรงกับตำแหน่งแชทนั้น... แม้ใจจะอยากเปิดดู แต่ด้วยทิฐิและความเกลียดชังของผมที่มีต่อมัน ทำให้เลื่อนไปกดปุ่มโฮมทันที

สำหรับคนอย่างมัน ชาตินี้ผมก็จะไม่ทิ้งเอาไว้แม้แต่ชามข้าวหมา...
.
.
.
.
เช้าวันอังคาร นายสุชาติคนเดิม เพิ่มเติมคือย้อมผมสีเขียวเหมือนสนามหญ้าโรงเรียนของผม เอิ่ม...เห็นแล้วอยากจะอ้วก... มันดูแปลกๆ อาจจะเพราะผมไม่ชอบอะไรที่มันเขียวๆแปลกๆแบบนี้ล่ะมั้ง

วันนี้ก็นึกครึ้มอะไรของพวกนางก็ไม่รู้ นัดมานั่งสนามบาสหลังโรงเรียน ตอนแรกก็คิดหัวแตกอ่ะ แต่พอเดินเข้ามานี่อ่ะหืมมมม ที่ไหนได้ นั่งดูผู้ชายแต่เช้า รับอาหารสายตาสินะ...แต่จะให้ดีต้องรับอาหารสมองด้วย อาการเริ่มหนักขึ้นทุกวันๆ

"กรี๊ดดดดดดดดด น้องเท่มากเลยคร้าาาาา~~~" อีผีแคระ!

"ฮิ้ววววๆๆ แกมม่าขา~ มีคนชอบแกมม่าอยู่แถวนี้~~" อีคิริโนะว่าแล้วชี้โบ๊ชี้เบ๊มาที่อีเบต้าที่นั่งเขินอยู่ข้างๆ แต่ปากยังทำสกิลแถจนสีข้างถลอก "กูไม่ได้ชอบบบ!! อีหอยหลอดดดดด! อีมั่ว! อีชาติชั่วมาเกิด!!! หน้าตามันก็ไม่ได้หล่อตรงสเป๊กกูเล้ยยยย"

จำต้องเสียงสูงป่ะวะ?

ขอเถอะเพื่อนกู จะมีวันที่พวกมึง have a สติ กันบ้างมั้ย

ผมถอนหายใจแล้วโคลงหัวไปมา จากนั้นก็เดินไปนั่งบนอัฒจรรย์ที่พวกนั้นนั่งอยู่ โดยเลือกนั่งข้างๆเฟย์คนน่ารักของผมม~

ฟึ่บ

ผมนั่งลง แล้วเท้าคางมองเหล่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่รู้จักเล่นบาสกัน มันจะน่าสนุกมากขึ้นถ้าผมดูกีฬาเป็น... คิดงั้นก็หันไปมองเพื่อนพ้อง อืม...ไม่มีใครดูกีฬาเป็นสักคนหรอก ที่มานี่เพื่อผู้ชายล้วนๆ สงสัยคงจะมีแต่เฟย์ รูนคนนี้แหละมั้ง ที่ไม่สนใจผู้ชายเลย

"นี่เฟย์~" ผมเรียกเธอ

"หือ?" เอียงคอเพิ่มความโมเอะ...อั่ก...ขอกระอักเลือด

"ดูพวกมันดิ สนใจแต่ผู้ชาย ไม่เหมือนเฟย์เลยเนอะ" ผมพูดแล้วเกาะแขนเฟย์พร้อมยิ้มหวานจนเห็นฟัน ส่วนเฟย์... กระต่ายน้อยมองแต่สนาม ปากก็ตอบอื้อ

"หืม? ในสนามมีอะไรน่าสนใจเหรอเฟย์?" ผมถาม แต่เฟย์กลับนั่งทำตาเป็นประกาย อะ..นี่..ผมโดนเมินเหรอ..? ม่ายยยยยยยย!!!

กรีดร้องในใจไปก็เท่านั้นแหละ

ผมมองตามสายตาของกระต่ายน้อยไป ก็พบ...อืม...

ซารุ

เด็กผมหงอก หัวกะทิ ม. 5/1

เหยดดดดดดดดดดดดดด เฟย์น้อยปลื้มเด็กสายวิทย์! เหมือนห้องเราเลยยย

เด็กอะไร หน้าตาก็ดี เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็สุดยอด แถมแว่วๆมาว่าบ้านรวย ที่สำคัญ!

นิสัยดียยย์~

10 10 10 ไปเลยจ้าาา ยอมแล้วๆ

"เฮ้อ..." ผมถอนหายใจ ถ้าเฟย์ไปกับซารุ เบต้าไปกับแกมม่า ก็จะเหลือผมกับลาลาย่าน่ะสิ คราวนี้คงเหงาแย่...

ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ไม่สดใสเท่าไหร่ แหงล่ะ...นี่มันฤดูหนาว... ถึงที่ไทยจะไม่ค่อยหนาวถึงไม่หนาวเลยก็เถอะ

นึกถึงวันนั้นที่พี่ไทโยกำลังจะทำ...อ่า...นั่นมันไม่ดีเลย

ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็น คงคิดว่าคุณชายทั้งสองกำลังจะงาบกันหลังบ้าน แต่ผมรู้ดีว่าพี่ของผมไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น

ในใจของพี่เขา...มีแต่พี่เฮียวกะ...

พี่เฮียวกะคือแฟนเก่าของพี่ไทโย ทั้งคู่คบกันมาได้ 7 ปี ก็โดนอาถรรพ์ 7 ปีเล่นงาน หรือจะเรียกว่า มือที่สามฉกไปดีล่ะ คือ อันที่จริงแล้วมันก็ไม่เชิงหรอก แต่จะพูดยังไงดีล่ะ บ้านโน้นเขาไม่อยากให้ลูกชายแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน เลยจัดการหมั้นหมายกับเพื่อนสาวที่ทั้งพี่เฮียวกะและพี่ไทโยรู้จักกันดี เพราะเธอนั่นแหละ คือแม่สื่อของทั้งคู่สมัยจีบกัน รู้สึกว่าเพิ่งแต่งกันไปเมื่อกลางปีนี่เอง ตอนนี้อดีตแม่สื่อคนนั้นท้องได้ 3 เดือนแล้ว พ่อแม่พี่เฮียวกะดูแลประคบประหงมอย่างดี สถานการณ์ในบ้านจัดได้ว่ารื่นเริ่งที่สุดในรอบหลายปี

แต่ภายในนั้น ทั้งคู่ก็ไม่มีความสุขเลย

อดีตแม่สื่อรู้สึกผิดจนมองหน้าแทบไม่ติด ที่ตนเองถูกดึงเข้ามาแต่งกับเพื่อนที่ตนเองโยงรักผูกด้ายแดงให้กับอีกคน แต่ดีที่พี่เฮียวกะเข้าใจและพี่ไทโยก็เช่นกัน ทุกวันนี้ความเป็นอยู่ของแต่ละคนเลย..ค่อนข้าง...ลงตัว

ออกจะดราม่าละครไทย แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่หน้าสลด

แม้ว่าทั้งคู่จะตัดขาดกันทางความสัมพันธ์ แต่การติดต่อยังคงเหมือนเดิม ภรรยาของพี่เฮียวกะเองก็เอาใจช่วยอยู่ข้างๆ

ขนาดผมไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้นยังอดรู้สึกเสียใจไม่ได้เลย แล้วพี่ไทโยของเขาจะเป็นยังไงบ้างนะ ภายนอกยิ้มแย้มแจ่มใสขนาดนั้น ในใจของพี่ต้องเจอมรสุมความคะนึงหาขนาดไหนกัน ถึงได้เกือบจูบผม...
.
.
.
.

*

"ฮัลโหล"

(ไทโย...)

"..เป็นยังไงบ้าง"

(ก็..เรื่อยๆน่ะ ส่วนคินาโกะก็เป็นห่วงพวกเรามาก รู้สึกผิดจนกินอะไรไม่ลง ผมบอกให้เธอยอมทำเพื่อลูก เธอเลยมีอะไรตกถึงท้องบ้าง)

"อืม..แล้วนายกินอิ่มนอนหลับดีนะ..?"

(อื้อ...)

"อย่าให้ฉันรู้ว่านายทำอะไรโง่ๆนะ แล้วก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วย เข้าใจมั้ย?"

(..อื้อ)

"..."

(...)

"ตอบให้ฉันมั่นใจหน่อยสิ ว่านายจะดูแลตัวเองให้ดี กินอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกาย ตั้งใจทำงานเพื่อครอบครัว ดูแลคินาโกะกับลูกให้ดี..."

(...)

"...ยังรักและรอฉันอยู่เสมอ"

(ได้สิไทโย ได้..ผม..ฮึก..ทำได้...)

"ร้องไห้ทำไม.."

(ผมแค่รู้สึกมีความสุข ไทโย...อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งของวัน มันก็เป็นของผม..ฮึก..ช่วงเวลาที่ผ่านมา ถูกที่บ้านบอกให้ทำนั่นทำนี่ตลอด พ่อบอกว่าผมต้องแต่งกับผู้หญิง..ฮึก..และมีครอบครัวกับผู้หญิงเท่านั้น ส่วนแม่ก็บอกว่าผมต้องเป็นหลักให้ครอบครัว และ..ล..เลิก..ฮึก..ติดต่อกับคุณซะ ทุกย่างก้าวจะมีพวกเขาคอยบงการอยู่เสมอ ตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ผมคลานออกมาแล้วด้วยซ้ำ)

"..."

(โอเค...เขาจับผมเรียนกวดวิชา ผมเรียน เขาจับผมเรียนโรงเรียนดี ผมเรียน เขาบอกว่าผมต้องมีผลการเรียนเป็นอันดับหนึ่ง ผมก็ทำได้ และทำได้ดีมาตลอด เขาจับผมเรียนในคณะที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ผมก็กัดฟันเรียนมันจนจบ เขาสั่งให้ผมบริหารบริษัทต่อเขา ผมก็ไม่เกี่ยง แม้ว่าผมไม่ต้องการมัน)

"..."

(แต่การที่พวกเขาไม่ให้ผมอยู่กับคนที่ผมรัก...)

"..อึก.."

(มันเป็นเรื่องเดียวที่ผมยอมไม่ได้จริงๆไทโย)

"...นาย.."

(แค่คุยกันผ่านการโทรหรือวิดีโอคอล มันไม่ได้ทำให้ผมอยากเจอคุณน้อยลงเลย...)

"...เฮียวกะ"

(ผมรักคุณ ไทโย ผมจะรักคุณเพียงคนเดียวและคนสุดท้ายเท่านั้น)

"ฉันก็รักนาย เฮียวกะ รักนายที่สุด จะไม่มีใครมาแทนที่นายได้ นายจะต้องอยู่กับฉันตลอดไป..."

"เพราะงั้น..."

"หนีไปกับฉันเถอะเฮียวกะ"

*

"ค่อกๆ แค่กๆ" เสียงสำลักออกซิเจนดังมาจากอีกฝั่งของบานประตู ซึ่งคนที่มัวแต่มีสมาธิกับคนในสายไม่มีทางได้ยิน

คุณป้าสาวใช้กับคุณลุงพ่อบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พลางส่งสายตาหากันอย่างสื่อความนัย

"มึงเอ๊ยยยย คุณชายใหญ่จะพาคุณเฮียวกะหนี!"

"รู้แล้วน่ายัยแก่! ก็แอบฟังด้วยกันเนี่ย!!"

"ต้องบอกนายท่านกับคุณหญิงหรือเปล่า?!"

"ไม่รู้สิวะ!"

"เอ้า!! ไอ้แก่!"

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังสื่อสารทางสายตากันอยู่ หัวหน้าแม่บ้านวัยชราอายุ 50 ลักษณะอ้วนท้วมแต่ร่างกายแข็งแรงเหมือนเด็ก 15 ก็เดินมาหาทั้งคู่

นิ้วป้อมสกิดที่ป้าสาวใช้ หล่อนหันมาพร้อมส่งยิ้มแหยกลับไป เมื่อรู้ว่าตนเองทำเรื่องไม่สมควร นั่นคือการสอดรู้สอดเห็นเรื่องเจ้านาย ป้าสาวใช้จึงรีบเดินออกไป เมื่อลุงพ่อบ้านหันมาเห็นก็ทำเช่นเดียวกัน

หัวหน้าแม่บ้านส่ายหน้าก่อนจะเอาหูแนบกับประตู ว่าทั้งสองคนนั้นฟังเรื่องอะไรกัน

แย่แล้ว!!! คุณชายใหญ่จะพาคุณเฮียวกะหนี!

ต้องแจ้งข่าวดีให้นายท่านทราบแล้ว!!!


*Up on DekD
*04/09/2017

No comments:

Post a Comment