2 - จอง

2 – จอง
           
            “ลูกมีผัวแล้วนะ”

            “ห่ะ?!

            ผมถึงกับตาสว่างเลย นี่กูเป็นสโนว์ไวท์เหรอ?!!!! ตื่นมาก็มีผัวเลย!!!

            หลังจากที่ม๊าบอกมาแบบนั้น ผมก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อถ่อไปดูหน้าคนที่มาเป็นผัวผม ใครวะมีรสนิยมแบบนี้? ขนลุก

            ตึกตึกตึกตึก

            เมื่อลงบันไดมาถึงขั้นสุดท้ายและเดินเข้ามาที่โซนรับแขกตรงกลางบ้าน ไม่ๆ คฤหาสน์ต่างหาก ป๊า ม๊า และพี่ไทโยดูจะต้อนรับเขาดีจังเนอะ ถึงจะเห็นแค่หลังเขา(เขานั่งหันหลังให้)ก็บอกได้เลยว่าต้องเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล แต่ไอ้ผู้ชายคนนี้มันคุ้นๆอยู่นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมสีนี้ ทรงผมแบบนี้ หันมาแล้ว!

            “ไงเด็กน้อย ^^

            ชะ ชัดเลย 0[]0 แล้วมีหน้ามายิ้มให้กูอีกเนอะ

            “เทนมะ ทักทายเขาก่อนสิ นี่คุณสึรุงิ เคียวสุเกะ เป็นผู้บริหารโรงแรมของตระกูลสึรุงิและเป็นเพื่อนสมัยอยู่มหาลัยของพี่เอง”

            นี่พี่มีเพื่อนที่ปากหมาขนาดนี้เลยเหรอ?!!! แถมนิสัยยังแย่ แย่ๆๆๆๆๆๆ เกลียดโว้ยยยย!!!!

            “มึงคิดไงมาขอน้องกูคบ หน้าก็ไม่เคยเจอ นิสัยก็ยังไม่รู้ หมายถึงน้องกูอ่ะนะที่ไม่รู้”

            อื้ม จ้ะ - -”

            “ก็...”

            ไอ้สึรุงิมันเกริ่นแล้วปรายตามามองผม ก่อนจะพูดต่อ พูดให้มันดีๆแล้วกันล่ะ ไม่งั้นกูจะเอามีดมาปาดคอมึง

            “เมื่อวานกูเข้าไปตรวจผับแทนไอ้ชินโดที่นอนกกเมียมันอยู่ แล้วบังเอิญไปเจอน้องมึง กูว่าน่ารักดี เลยไม่อยากให้ใครชิงคบไปซะก่อน เลยมาขอเนี่ยแหละ”

            พ่อแม่มึงไม่สั่งสอนเหรอ!!! ว่าอย่าเพิ่งคบใครที่เจอกันแค่วันเดียว เผลอๆกรณีมึงกับกู 24 ชั่วโมงก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ -_-

            “เทนมะมานั่งนี่มา”

            พี่ไทโยเรียกผมให้มานั่งข้างๆ จะรออะไรล่ะครับ เดินไปนั่งเลยน่ะสิ

            “ทักมันสิ”

            พี่เอาจริงเหรอ?! ไม่เอานะ ผมส่ายหน้ารัวๆเลย

            “ทำไมล่ะ?”

            ถ้าผมบอกพี่เรื่องเมื่อวานมันจะเป็นการสร้างความร้าวฉานระหว่างสหายหรือเปล่าวะ? เหอะ...ให้กูตอแหลยังง่ายกว่าอีก

            “ผมไม่ยอมคบใครเพราะเพียงแค่เห็นหน้าแว้บเดียวหรอกนะ”

            อื้ม เห็นหน้า...เห็นหน้าแล้วต่อยเลย 3 หมัดเนี่ยนะ

            “โอเคๆ งั้นแค่ทักเฉยๆก็ได้”

            ผมพยักหน้าให้พี่ไทโยก่อนจะหันไปฉีกยิ้มกว้างให้สึรุงิ จนมิสยูนิเวิร์สต้องกราบ แล้วตามด้วยการกล่าวทักทายพร้อมกับไหว้แขกที่ แก่ กว่า

            “สวัสดีครับ”

            ถ้าผมจะไหว้เขาขนาดนี้นะ เบญจางคประดิษฐ์เหอะ

            “ไม่ต้องไหว้พี่ขนาดนี้ก็ได้ครับน้องเทนมะ”

            ผมมองค้อนขวับ กูต้องซึ้งมั้ยที่มึงคุยกับกูเพราะขนาดนี้

            “อ่อ ครับ งั้นคราวหน้าผมจะได้ไม่ต้องไหว้ให้เสียเวลา”

            “เทนมะ!

            ม๊าเรียกผมเพราะผมพูดไม่สุภาพกับเขา ม๊าไม่รู้อะไรหรอก มันอ่ะ ตัวเริ่มเลย มาว่าผมว่าเด็ก แถมยังทำผมโคตรอับอายกับประโยคนี้

            ‘กลับไปกินนมที่บ้านไป๊!’

            กูโคตรอายเลยไอ้สัสเอ๊ย!!!

            “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมไม่ถือสาหรอกครับ”

            ใครแม่มึง! นี่แม่กู อย่ามายุ่ง แล้วมาทำเป็นพูดไม่ถือสงไม่ถือสา กูรู้...ในใจมึงคงอยากจะกระทืบกูให้จมดิน

            “อุ๊ย! ไม่ได้ๆๆ หนูเป็นแขกคนสำคัญของบ้านเรา เพราะฉะนั้น... ขอ โทษ เขา ซะ”

            ม๊า!!! ไม่เอาๆๆๆๆ มันนิสัยไม่ดี มันโคตรชั่ว! มันต้องมีแผนอะไรแน่ๆเลย ไม่เอานะม๊า อย่าไปต้อนรับมัน ม๊า!!!

            “ขอโทษครับ”

            สุดท้ายผมก็ต้องกัดฟันอยู่ดี โคตรอยากจะเดินหนีออกไปดื้อๆเลย

            “แล้วเทนมะจะว่าอะไรมั้ย ถ้าพี่ขอเราเป็นแฟนน่ะ .////. ”

            มึง! มึง! เมิงงง!!!!! มึงไม่ต้องมาหน้าแดงเรียกคะแนนจากกู กูรู้มึงเฟค มึงเฟค!!! มึงเปลี่ยนสีหน้ามึงได้เหมือนกับกิ้งก่า อีห่า! กูรู้ มึงเฟคคค!!!! (เฟค หรือ fake ณ ที่นี้ หมายถึง แสร้งทำ แกล้งทำ)

            “เอ้า ว่าไงลูก เป็นแฟนพี่เขามั้ย?”

            ป๊าถาม... แต่ผมจะตอบให้แบบไม่ต้องคิดเลยล่ะครับ

            “ไม่!

            “ว้า...ขอโทษด้วยนะลูก ที่เทนมะเขาปฏิเสธลูก แม่เสียใจด้วยนะ”

            ม๊าฮะ ผมก็ลูกม๊านะ //เบะปากร้องไห้

            “ไม่เป็นไรครับ ผมคงอยากได้น้องเร็วเกินไป เพราะฉะนั้น...”

            ผมจะทำใจและตัดใจจากน้องให้ได้ครับ

            “ผมจะพยายามจีบน้องให้ติดครับ ^^

            เดี๊ยวววว มึงต้องพูดตามที่กูคิดสิ นั่น ยิ้มหน้าบานเท่าฝาบ้านใส่กูอีก แต่...ก็ได๊ มึง...จีบกู กู...ไม่เล่นด้วย จบ แล้วเราสองคนก็จะไม่มีทางได้คบกัน หุๆๆๆ เว้นซะแต่กูจะทานทนความหล่อของมึงไม่ไหว เฮ้ยๆ! อย่าเพิ่งรีบคิดว่าผมชอบมันนะ แต่แค่คิดว่ามันก็หล่อ ผมก็หล่อ เราคงเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ควงกันออกไปไหน ใครๆก็มองว่าน่ารักอ่ะ แล้วดูไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ แบบว่า หน้าตาดีพอให้อภัยได้อ่ะครับ

            “น้องเทนมะว่าไงครับ? ให้จีบได้หรือเปล่า?”

            อย่า...อย่ามายิ้มอ่อน เดี๋ยวกูทนไม่ไหว

            ...ทนไม่ไหวที่จะต้องเอาตีนไปประเคนถึงหน้ามึง!

            “ไม่!

            คราวนี้ผมตอบแล้วลุกขึ้นทันที ก่อนจะก้าวออกจาห้องรักแขกไป
.
.
.
.
            ผมเดินมาที่สวนแอปเปิ้ลหลังบ้าน แต่จะเรียกว่าบ้านมันก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่าคฤหาสน์สิ เพราะมันใหญ่มากๆเลย เหมือนกับคฤหาสน์บ้านทรายทอง(?)แหนะ

            พรึ่บ

            ผมนั่งเอาหลังพิงกับต้นแอปเปิ้ลที่ใหญ่ที่สุดในสวนและแก่ที่สุดด้วย รู้หรือเปล่า? ต้นแอปเปิ้ลที่ผมนอนอยู่นี้ เป็นต้นเดียวกับเมื่อสิบปีก่อน ที่ตอนนั้นผมกับพี่ไทโยช่วยกันปลูก เราสองคนมาเล่นด้วยกันที่นี่บ่อยมาก และเวลาที่พี่ไทโยต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ผมก็จะมานั่งคุยกับต้นแอปเปิ้ลต้นนี้แหละ

            เหมือนบ้านะ

            แต่เวลานั้นผมคิดถึงพี่ไทโยจริงๆ T^T

            “มานั่งตรงนี้อีกแล้วเหรอก้าง ฮึๆ”

            เรียกแบบนี้ มีอยู่คนเดียว

            “ง่า~ พี่ไทโย ขี่หลังหน่อย~

            “แน่ะๆ อ้อนแล้วเราๆ”

            โป๊ก!

            “โอ๊ย! พี่ไทโยอ่า เคาะกะบาลเค้าทำไม T^T

            ผมว่าพลางเอามือทั้งสองข้างกุมที่กลางกะบาลพร้อมเบะปากน้ำตาเพราะความเจ็บ

            “สมควร”

            “สมควรหรอ? นี่อย่าบอกนะว่าที่มาเคาะกะบาลเค้าเพราะว่าเค้าพูดไม่ดีกับเพื่อนพี่อ่ะ?”

            “ใช่”

            โป๊ก!

            “เอ๊า?! เคาะกะบาลผมำไมอีกเนี่ย??”

            เจ็บซ้ำเลยกู ซี้ด...อูยย T-T

            “ก็อยากเคาะ”

            แบบนี้เขาเรียกกวนตีนฮะ - -*

            “งั้นถ้าผมเคาะพี่คืน แบบนี้ถือเจ๊ากันมั้ยฮะ ย่าห์!!!

            ผมไล่เคาะหัวพี่ไทโยคืน แต่ก็ยังเคาะไม่ได้สักครั้ง เพราะพี่เขาตัวสูงขายาว เลยทำให้ผมตามพี่เขาไม่ทัน

            พวกเราวิ่งกนจนรอบสวนแอปเปิ้ลและต่างคนต่างก็หยุดและเหนื่อยหอบกันไปเอง

            “แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก..”

            ผมหอบพร้อมทิ้งตัวลงนั่งลงใต้ต้นแอปเปิ้ลของเรา ส่วนพี่ไทโยก็นั่งพิงอีกฝั่งของลำต้น ผมหันหลังไปทางซ้ายกะว่าจะจ๊ะเอ๋ แต่พี่ไทโยก็หันไปทางขวาผม พอผมหันไปทางขวา พี่ไทโยก็หันไปทางซ้ายผม และสุดท้าย ผมเลยหันไปดักทางขวาเสียเลย แล้วตั้งท่าจะจ๊ะเอ๋ แต่ก็ต้องชะงัก

            กึก
            !!!

            เพราะว่าปลายจมูกเราสัมผัสกัน

            พอผมจะขยับหนีออกไป พี่ไทโยก็จับต้นคอผมให้เข้าใกล้ริมฝีปากพี่ไทโยมากขึ้น

            พลั่ก
            !!!

            ริมฝีปากเราแตะกันเพียงนิดเดียว ผมก็เตะพี่ไทโยออกไป แล้ววิ่งหนีเข้าคฤหาสน์

            ตึกตึกตึกตึก

            ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ไทโยต้องทำแบบนี้กับผมด้วย ถึงผมจะไม่ได้รังเกียจสสัมผัสนั้น แล้วยังใจเต้นถี่รัวอีกต่างหาก แต่ผมว่ามันก็ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน อาจจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆก็ตาม แต่พี่ไทโยคงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับผมหรอก พี่ไทโยไม่มีวันคิดอะไรแบบนั้นกับนายหรอกเทนมะ ไม่มีทางๆๆๆๆ
.
.
.
.
            21.34

            ฟุ่บ

            “เฮ้อ”

            เปิดโน้ตบุ๊คเล่นเฟสบุ๊คดีกว่า ดูซิ มีข่าวสารโลกภายนอกอะไรอัพเดตบ้างน้า~

            เมื่อกี้จากที่กำลังนั่งบนเตียง ก็เปลี่ยนมาเป็นย้ายตัวเองให้ไปนั่งที่โต๊ะทำงานพร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊ค แล้วเข้าเฟสบุ๊คของตัวเองทันที

            ตึ๊ง!

            Tsurugi Kyosuke ได้ส่งคำขอร้องเป็นเพื่อนกับคุณ

            กึก!

            คิ้วกระตุกเลย...

            นี่มึงเอาเฟสกูมาจากใคร?!!!!

            แต่ไม่รู้แหละ มึงเอามาจากใครกูไม่สน ถ้ากูไม่รับมึงเป็นเพื่อนซะอย่าง วะฮะฮะฮ่า! ผมคิดอย่างนั้นพร้อมเมินการแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมา และไล่เมาส์ดูอย่างอื่นต่อ แต่ว่าเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความมา เลยทำให้ผมต้องเขาไปดูว่าเป็นใคร

            ตึ๊ง!

            Tsurugi Kyosuke : ทักคับ
            Tsurugi Kyosuke : รับแอ้ดพี่หน่อยสิคับ


            ทักกูมาทำม้ายยยยยยยย!!!!!!!!!! //กรีดร้อง

1 comment:

  1. โอ้ ~ อิเคียวบุกเข้าหาเหยื่ออย่างรวดเร็ว
    หนูเทนนิเหมือนตอนนี้จะรันทดแฮะ =____=;;
    #อวยไทโยผิดไหมคะ--------- //โดนรุมตืบ

    ReplyDelete