4 - ผู้ปกครอง

            *
           
            ขณะเดียวกัน...

            12.56

            Rrrrrrr Rrrrrrr Rrrrrrr

            ขณะที่ผมกำลังขับรถออกจากบริษัทเพื่อกลับไปที่บ้าน ระหว่างทาง...สมาร์ทโฟนราคาแพงของผมก็แผดเสียง ด้วยที่ผมกำลังขับรถอยู่เลยไม่สามารถหยิบมันขึ้นมารับสายได้ เลยกดที่หูฟังบลูทูธเพื่อรับสาย

            (ชิบหายแล้วมึง!!!)

            “ห..ห๊ะ?” ผมไม่ทันได้ฮัลโหลเสียงของไอ้ไทโยก็แทรกขึ้นมา

            (ฝ่ายปกครองที่โรงเรียนน้องโทรมาบอกว่าน้องโดนแกล้ง!)

            “ว่าไงนะ”

            เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด

            ผมเบรกเข้าข้างทางแทบไม่ทัน โชคดีที่ตอนนี้ถนนโล่ง เลยไม่มีอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลนกะทันหันของผม

            (ไอ้สึรุงิ เมื่อกี้เสียงไรวะ?)

            “เปล่าๆ แค่หมาขับรถไม่ดีว่ะ”

            (อ่อ)

            “แล้วเรื่องน้องเทนมะ...”

            (คือเดี๋ยวอีกห้านาทีกูจะเริ่มประชุมกับฝ่ายพีอาร์ ถ้ามึงว่างกูฝากให้มึงเข้าไปดูน้องได้มั้ย ตอนกูรู้เรื่องกูโคตรร้อนใจเลยว่ะ)

            “เออๆ เดี๋ยวกูเข้าไปดูให้อยู่แล้วแหละ มึงไม่ต้องกังวล เพราะกูสัญญาแล้ว ว่ากูจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”

            (...อืม ขอบใจมึงมาก...)

            ตู๊ด...

            เมื่อสายถูกตัดไปแล้ว ผมจึงได้เริ่มออกรถอีกครั้ง เพียงแต่เปลี่ยนเส้นทางจากบ้านเป็นโรงเรียนอินาสึมะวิทยาลัยแทน

            ไม่แปลกใจที่ไอ้ไทโยจะรู้สึกร้อนรนขนาดนั้นเมื่อน้องบุญธรรมของมันมีเรื่องอะไรหรือเป็นอะไรไป เพราะมันรู้สึกกับน้องเหมือนที่ผมรู้สึก

            แต่ผมตอนนี้ไม่ได้รู้สึกร้อนรนเท่ามันหรอกนะ

            บรื้นนนนนนนนนนน

            ...แค่เหยียบแตะร้อยยี่สิบเอง...
.
.
.
.
            ณ ห้องปกครองโรงเรียนอินาสึมะวิทยาลัย

            ขอบอกตามตรง...

            ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่ทั้งห้องปกครองอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำส้มสายชูจากตัวผมแล้วล่ะ

            เหี้ยเอ๊ย!

            กูจะต้องขัดสีฉวีวรรณกี่ชั่วโมงถึงกลิ่นบัดซบนี่จะหายวะเนี่ย!!

            ผมเบะปากมองอีคนข้างๆที่นั่งกอดอกเชิดหน้าหวานขึ้น 45 องศา โดยที่ข้างแก้มของหล่อนยังมีคราบพริกเผาต้มยำติดอยู่ประปราย และนี่ยังไม่นับเส้นบะหมี่ที่เกาะเกี่ยวกับผมของเธอ

            ถึงบ่นอย่างนั้น แต่สภาพของผมตอนนี้ก็อนาถไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่

            “ว่ายังไงโซราโนะ ผู้ปกครองเธอมาหรือยัง?” อีป้า...เอ๊ย! หมายถึงครูฝ่ายปกครองที่แต่งตัวชุดเสื้อกระโปรงผ้าไหมชั้นดี ทรงผมตีโป่งแบบคุณหญิงคุณนายในวัง ปากสีแดงแปร๊ดที่ยืนอยู่หน้าปากซอยคนท้ายซอยก็ยังเห็น นางพูดกับโซราโนะ อาโออิ(กัดฟันพูดชื่อหล่อน)ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างแบบสุดๆ

            “เขาบอกว่ากำลังจะมาค่ะ” อีนี่ก็เสียงแข็งพอกัน

            “อ้อ... แล้วเธอล่ะ มัทสึคาเสะ เทนมะ” เสียงหวานจังป้า จำได้ว่าครั้งที่แล้วที่เจอกันป้าแอทแทค(attack)ใส่ผมรัวๆๆ เพราะว่าผมดันอดใจไม่ไหวตบอีอาโออิ ทั้งๆที่หล่อนตบผมก่อนแท้ๆ

            “เดี๋ยวก็คง....มา...ครับ”

            ครืดดด

            ประตูบานเลื่อนถูกเปิดโดยคนที่ผมไม่คิดว่าจะมา และไม่อยากให้มา

            (ไอ้)คุณสึรุงิ เคียวสุเกะ(กัดฟันพูด)

            คนที่แอดเฟสฯผมมาเมื่อวานนั่นแหละ

            เขามาพร้อมกับหญิงสาววัยกลางคน ดูจากลักษณะแล้ว... น่าจะเป็นพวกมนุษย์ป้าที่พร้อมจะกางปีกปกป้องหลานเต็มที่ โดยไม่สนว่าหลานจะถูกจะผิด

            โอ้...เป็นคุณผู้ปกครองยัยอาโออิอย่างไม่ต้องสงสัย

            “ว้ายยยยย!! ทำไมหลานฉันได้มีสภาพแบบนี้!!!” มาถึงก็หวีดเหมือนเดิม - -

            ผมมองป้าแกด้วยสายตาเอือมๆ ซึ่งแกก็ตอบกลับมาด้วยสายตาอาฆาตแค้นและประโยคทักทายที่แสนอบอุ่นตามประสาป้าวัยห้าสิบเช่นเคย

            “แกอีกแล้วเหรอไอ้เด็กทุเรศ!!!!

            “ครับ^^ ” ผมส่งยิ้มพิมพ์ใจมนุษย์ป้ากลับไป ผลที่ได้คือแกหน้าแดงก่ำแถมตัวสั่นเพราะความเขิน ถุยยยยย ป้าแกโกรธต่างหากเว้ย!

            “อ่า...วันนี้ผู้ปกครองของมัทสึคาเสะดูไม่คุ้นหน้าเลยนะคะเนี่ย” ประจบไปอีกกก คุณป้าตีโป่ง—แค่กๆ—ครูปกครอง เห็นคนหล่อเป็นไม่ได้ เหอะๆ (ทำหน้าเหยเก)

            แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ะ ทำไมหมอนี่มันมาแทนพี่ไทโยสุดหล่อของผม?

            “อ๋อครับ คุณอเมมิยะส่งผมมาแทนน่ะครับ พอดีติดประชุม” ...เขาพูดพร้อมมองมาทางผม ราวกับจะตอบคำถามของครูปกครองพร้อมกับคำถามของผมไปด้วย… แหวะๆๆ ใครอยากเห็นหน้าแกกัน หันกลับไปเลยนะ

            ผมที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่ก็แว้ดๆผ่านทางสายตา ส่วนเขา...ยิ้มกลับมา...

            เออะ 0////0

            กูเขินมันว่ะไอ้ชิบหายยยย!!!!!

            ผมรีบหันหน้ากลับมาพร้อมข่มกลั้นความเขินอายภายใต้สถาณการณ์ตึงเครียด(?)

            “อ๋อค่ะ งั้นเชิญนั่งลงก่อนเลยนะคะ จะได้ไม่เมื่อย” ครูเชิญเขากับมนุษย์นั่งลง หมอนี่ยอมนั่งลงข้างๆผม แต่...

            “ฉันไม่นั่งค่ะ! หลานสาวของฉันอยู่ในสภาพนี้ฉันไม่มามัวใจเย็นหรอกนะคะ!! คุณครูรีบเล่ามาดีกว่าค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวฉัน!!!!” ผมมองป้าด้วยสายตาเอือมระอาอีกครั้ง แล้วกลอกตาเป็นเลขแปด

            “ฮึก”

            Scene 1 : นางเอกโดนรังแก

            เริ่มได้! (แก๊ก! : เสียงคัทฉาก)

            “ฮึก..ป้าคะ ใจเย็นๆก่อนนะคะ..อึก..คือว่าเทนมะเขา..ฮึก..แค่หยอกหนูเล่นนิดๆหน่อยๆ..น่ะค่ะ...” บทโศกก็มาจ้ะ น้ำตาคลอเบ้าราวสั่งได้

            “ไหนเล่าให้ป้าฟังซิลูก อย่าเพิ่งร้องนะ อย่าเพิ่งร้อง โอ๋ๆๆ” อีป้าปลอบหลานใหญ่เลยวุ้ย

            “คือว่า..คือว่า..ตอนที่หนูซื้อก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว หนูกำลังจะ..ฮึก..เดินออกไป เทนมะเขา...” มีการเหล่มองผมอย่างหวาดกลัวตัวสั่นราวลูกนกตกน้ำ อะไรจะขนาดนั้นวะครับคุณเธอ

            “มันทำอะไรหนู?!!” อีป้านี่ก็เหลือเกิน ดูอยากเล่นงานผมจนตัวสั่นแล้วสินะ

            “...เขาขัดขาให้หนูสดุดล้มค่ะป้า ฮืออออออออ เนี่ย...หน้าทิ่มใส่ชามก๋วยเตี๋ยวเลย ฮึก..โฮฮฮฮฮฮฮ”

            “โถๆๆ น่าสงสารจังเลยลูก”

            จบประโยคนี้ ผม ครูฝ่ายปกครอง และ(ไอ้)คุณสึรุงิก็พากันกลอกตา

            Scene 2 : กางปีกปกป้อง

            เริ่ม!

            “หน็อยยย!! ไอ้เด็กเวรไอหน้าตัวเมีย! แกแกล้งหลานฉันอีกแล้วนะ!!! ขอโทษหลานฉันเดี๋ยวนี้เลย!!!!!

            เปลี่ยนชื่อซีนเป็นป้าอาละวาดดีมั้ยนะ

            “ใจเย็นๆก่อนนะคะคุณผู้ปกครอง” ป้าตีโป่ง—แค่กๆ—ครูฝ่ายปกครองพยายามพูดให้ป้าแกใจเย็นลง

            “ไม่!!! มันทำหลานฉันบ่อยขนาดนี้ใครจะเย็นลงล่ะคะ!

            “เอ่อ...ถ้าเรื่องมันมีแค่นั้น ทำไมน้องเทนมะถึงมีกลิ่นพริกน้ำส้มล่ะครับ?” อีป้าพอได้ยินแบบนั้น แกก็รีบหันมาทาง(ไอ้)คุณสึรุงิทันที

            “คงจใจเอามาราดตัวเองให้ดูเหมือนหลานฉันเอาคืนล่ะมั้ง!

            เฮือก

            ยัยอาโออิแอบสดุ้งเบาๆ คนอื่นไม่เห็น แต่ผมนี่เห็นชัดเจนเลย หึๆ

            “โรงเรียนนี้มีกล้องวงจรปิดมั้ยครับ?” (ไอ้)คุณสึรุงิถามครูฝ่ายปกครอง

            “มีค่ะ”

            “ขอดูภาพหน่อยได้มั้ยครับ?”

            “ได้ค่ะ”

            ผมหันกลับไปมองยัยอาโออิอีกครั้ง คราวนี้หล่อนถึงกับหน้าถอดสี ปากก็พะงาบๆ เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็พูดไม่ออกเพราะประโยคต่อมาของป้านาง

            “ดีเลยค่ะครู ฉันมั่นใจว่าหลานฉันบริสุทธิ์แน่นอน”

            เดี๋ยวรู้กันครับ...หึๆๆ

            Scene 3 : หงายเงิบ

            หลังจากที่ทุกคนได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว สองป้าหลานก้พากันหน้าซีด โดยเฉพาะอีป้า นางเล่นใหญ่ตั้งแต่ก้าวเข้าห้องปกครอง แต่ก็ยังเก๊กมาดได้ทั้งๆที่หน้าแหลกละเอียดเป็นผงทุลี

            สุดท้ายอาโออิโดนทัณฑ์บน และถูกป้านางกักบริเวณให้สำนึกผิด...

            ไม่ใช่สำนึกผิดให้สิ่งที่ทำกับผมนะ แต่เป็นทำให้ป้าแกอับอายน่ะ

            ก่อนไป...ผมเลือกที่จะเดินผ่านยัยอาโออิชะนีสวมหน้ากาก แล้วกระซิบบอกรักเบาๆ

            “คราวหน้าถ้าจำเป็นไม่ต้องเล่นใหญ่มากนะ เพราะแถวนี้ไม่มีออสการ์ มีแต่ตีน จะเอามั้ย?” พูดจบก็ยกยิ้มสวยๆแบบนางร้ายก่อนที่จะเดินควงผู้ชายจากไปเยี่ยงนางพญา

            นี่กูเพ้ออะไรของกูวะเนี่ย อย่างกับตุ๊ดนางพญา

            “โอ้...ร้ายไม่เบานี่” ไอ้สึรุงิผีเฝ้าภูเขาไฟพูดกับผมพร้อมยกยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์

            ผมเลือกที่จะเมินคำพูดนี้ไปเมื่อพบหน้าเพื่อนๆที่มายืนรอแถวๆห้องปกครอง

            “ไงมึง ชนะอ่ะดิ” คิริโนะทักผมคนแรก

            “แน่น้อน เทนมะซะอย่าง” ผมพูดพร้อมเก๊กท่าเท่ๆ

            “นั่นใครอ่ะเทนมะ หล่อจังเลย ขอไลน์ได้มั้ยคะ” อีเบต้า เรื่องผู้ชายนี่ที่หนึ่งเลยนะมึง

            “คนรู้จัก” ..ที่ไม่อยากรูจัก

            “อ๋อ...พี่คะเพิ่มหนูเป้นคนรู้จักไว้อีกสักคนได้มั้ยคะ” ไม่จบนะมึง

            “ได้สิครับ เพื่อนของน้องเทนมะ” หมอนี่พูดแล้วยกยิ้มมุมปาก

            “จะแบดเกินไปแล้วววว ใจน้องจะละลายยยยย” หวีดเข้าไปหวีดเข้าไป~

            “เทนมะเหม็นอ่า~” เฟย์ทักผมแล้วบีบจมูกตัวเองก่อนที่จะยื่นกระเป๋านักเรียนมาให้ โอ๊ยยยยยย...ผมนี่พลีกายให้เธอเลย~~~

            “เพื่อนๆน้องเทนมะ พี่ฝากลาครูประจำวิชาครึ่งบ่ายนี้ด้วยนะครับ พอดีว่าต้องพาน้องกลับบ้านไปพักผ่อน”

            “ได้ค่ะ แต่ก่อนไปหนูขอไลน์พี่ได้มั้ยคะ หนูเป็นหัวหน้าห้องค่ะ” อีลาลาย่าผีแคระเอาความเป็นหัวหน้าห้องมาอ้างเพื่อขอไลน์ผู้ชาย กูจะจำไปยันลูกมึงบวชอีผี!!!

            “ที เอส ยู อาร์ ยู จี ไอ หนึ่ง ศูนย์”

            “ขอบคุณค่ะพี่สุดหล่อ~~” อีเบฯกับอีลาฯโบกมือบ้ายบายไอ้คุณสึรุงิอย่างกระดี๊กระด๊าจนผมหมั่นไส้ แล้วแสดงออกทางสีหน้า

            “หึงเหรอ หึๆ”

            “แผลเก่ายังไม่หาย อยากได้แผลใหม่เหรอครับ” ผมว่าแล้วฉีกยิ้มหวาน

            “ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำเลยครั---”

            พลั่ก!!

            “ฮู่ววว โล่งขึ้นเยอะเลย~” ผมทำเสียงแบบมีความสุขที่สุดในชีวิตเมื่อได้ต่อยหน้าหล่อของเขา ดคตรอิจฉาที่มีคนหล่อกว่าเลยว่ะ ขออีกหมัดแล้วกันเนาะ

            ฟึ่บ!

            หมับ!

            เขาจับหมัดผมเอาไว้ได้ มุมปากที่ยกยิ้มกวนมีแผลแตกซ้ำรอยเดิม โห...รู้สึกผิดเลยว่ะ ไม่ทำแล้วก็ได้

            ผมลดมือลงไว้ข้างตัวแล้วเดินต่อ เขาเองก็เดินตามมา นี่อย่าคิดนะว่าที่ผมรู้ผิดอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก บอกเลยว่าไม่ใช่ ผมเองก็มีจิตสำนึกต่อเพื่อนมนุษย์อยู่บ้างนะ

            “แค่หยอกเล่นไม่เห็นต้องทำ ว่าที่แฟน ขนาดนี้เลยนี่ครับ”

            พลั่ก!

            ยกเว้นไอ้เหี้ยนี่ไว้คนนึง

            ผมรีบวิ่งออกไปนอกโรงเรียน แล้วเรียกแท็กซี่กลับบ้านทันที โดยไม่สนใจไอ้คนที่วิ่งตามมา

            “ไปXXXครับ”

            ไอ้บ้าเอ๊ย! คิดจะจีบทั้งที จำเป็นต้องหยอดมาตรงๆขนาดนี้เปล่าวะ!!

            ผมเอนตัวพิงกับเบาะรถแท็กซี่แล้วหลับตาลงทบทวนเรื่องราวต่างๆ เมื่อลืมตา ผมก็มองข้างทางที่ผ่านไปเรื่อยๆ และเผยรอยยิ้มออกมา

            อา...น่าจะนึกออกให้เร็วกว่านี้นะ...

*TBC
*Up on Dek-D 17/07/2017

No comments:

Post a Comment